Last updated: 14 พ.ค. 2564 | 3867 จำนวนผู้เข้าชม |
ใช้แล้ว กี่วันหาย ? เป็นคำถามยอดฮิตที่น้องมะพร้าวได้รับมาตลอด
ก่อนจะตอบคำถามนี้ น้องมะพร้าวอยากให้ทราบสาเหตุของการเกิดฝ้าก่อนค่ะ เพราะจะได้แก้ได้ถูกทางค่ะ
สาเหตุของการเกิดฝ้า
1. แสง UVA UVB และ visible light
แสงแดดเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดเพราะ มีความเข้มของแสงเหล่านี้สูง Visible light คือแสงที่มองเห็นได้ นอกในแสงแดดแล้วยังมาจากหลอดไฟ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ อีกด้วย
2. ฮอร์โมนเพศหญิง เราพบว่าผู้หญิงเป็นฝ้ามากกว่าผู้ชาย มีฝ้าขณะตั้งครรภ์และการทานยาคุมกำเนิดได้
3. ยารับประทานบางชนิด เช่น ยากันชัก
4. การแพ้ส่วนผสมในเครื่องสำอางทำให้เกิดการอักเสบของผิวและทิ้งรอยดำคล้ายฝ้าได้
5. กรรมพันธุ์ ถ้าในครอบครัวเรามีปัญหาฝ้า ก็อยากขอให้เริ่มดูแลผิวกันให้ดีๆตั้งแต่อายุยังน้อยๆนะคะ เรียกว่ากันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ
6. โรคทางกายบางอย่าง เช่น ไทรอยด์ เนื้องอกรังไข่
แต่สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากแสงแดดและความร้อนค่ะ รักษาให้หายขาดยากค่ะ การรักษาช่วยได้แค่ให้ฝ้าจางลงให้ใกล้เคียงกับผิวเดิมและต้องดูแลตัวเองต่อเพื่อไม่ให้ฝ้ากลับมาค่ะ
หัวใจการต่อสู้กับฝ้า
1. "ยับยั้ง" การสร้างเม็ดสีใหม่จากเซลล์ฝ้า
2. "กำจัด" เม็ดสีเดิมที่มีอยู่ออกไป
อีกเรื่องที่น้องมะพร้าวอยากให้พี่ ๆ เข้าใจ เรื่องการผลัดเซลล์ผิว
โดยธรรมชาติแล้วผิวหนังของคนเราจะมีการผลัดเซลล์ผิวทุก ๆ 28 วัน
ถ้าเราได้ยินคำโฆษณาประมาณว่า 7 วันเห็นผล ซึ่งความเป็นจริงแล้วมันค่อนข้างเร็วมากๆ ค่ะ
เพราะผิวเราจะเปลี่ยนแปลงอยากเห็นได้ชัด ก็ต้องรอให้เซลล์ผิวเก่าผลัดออกไป
และรอให้เซลล์ผิวใหม่เผยออกมา ซึ่งกว่าเซลล์ผิวใหม่ที่เราบำรุงด้วยครีมจะเผยให้เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง
ก็ต้องใช้เวลาถึง 28 วัน และจะเห็นผลแบบชัดมากๆ เมื่อผิวเราผลัดออกไปแล้วถึง 3 รอบ หรือประมาณ 6-18 สัปดาห์ค่ะ
ดังนั้น ๆ พี่ ๆ ที่ใจร้อนอยากให้ฝ้าหายเร็ว ๆ น้องมะพร้าวเข้าใจค่ะ แต่น้องมะพร้าวก็ยากให้พี่ ๆ เข้าใจเหมือนสิ่งนี้เหมือนกัน
พี่จะได้ไม่ไปหลงใช้ครีมที่มีสารสเตียรอยด์หรือคำโฆษณาที่บอกว่าให้ภายใน 3 วัน 7 วันค่ะ
ครั้งหน้าน้องมะพร้าวจะมาพูดถึงเรื่องไม่อยากเป็นฝ้าถาวร ต้องรู้สิ่งนี้
#รักษาฝ้าอย่างยั่งยืน ด้วยสารสกัดหัวไชเท้ากันนะคะ
#ครีมหัวไชเท้ามะพร้าว ลดฝ้า x2 กดดูรายละเอียด https://www.coconatgardencosmetics.com/salepageradishplus
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากเพจคุณหมออุ๋ม ขวัญจิรา วงศ์เกียรติขจร facebook.com/drkuanjira